.
.
.
“คัท!!”
ทันทีที่เสียงสั่งคัทของผู้กำกับดังขึ้นร่างทั้งสองร่างที่กำลังแนบชิดกันอยู่บนเตียงหลังเล็กก็ผละออกจากกันแทบจะทันที ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปนั่งคนละมุมเตียงเพื่อสงบสติอารมณ์
“ลั่วอิน นายตัวแข็งมาก เกร็งอะไรนักหนา”
ผู้กำกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดนี่ก็ปาไปซีนที่เท่าไหร่แล้วเขาทั้งบอกทั้งปฎิบัติให้ดูจนเหนื่อย แต่สวี่เว่ยโจวที่รับบทเป็นป๋ายลั่วอินนั้นนอนตัวเกร็งปล่อยให้กู้ไห่กอดซุกไซร้อย่างไม่ขัดขืน นี่มันแหกบทชัดๆ!!
“ขอโทษครับ…ผมขออีกเทค”
เว่ยโจวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายอมรับว่ายังเกร็งกับฉากที่ต้องซุกไซร้เนื้อแนบเนื้อกับผู้ชายตัวโตๆด้วยกัน ยิ่งไอ้ผู้ชายคนนั้นตัวใหญ่ยักษ์ยังกับหมีควายหลงป่า เขาก็ยิ่งคิดไม่ตก ทั้งๆที่ก่อนจะถ่ายทำเคยอ้อนวอนผู้กำกับไว้แท้ๆว่าเขาขอเปลี่ยนเป็นกู้ไห่แทนได้ไหม เพราะการที่จะให้ผู้ชายแมนทั้งแท่งอย่างสวี่เว่ยโจวมาเป็นฝ่ายรับนั้นมันคงดูตลกพิลึก แต่ฝ่ายทีมงานกลับบอกว่าทักษะการแสดงของเขานั้นดีกว่าจิ่งหยูวมาก บทป๋ายลั่วอินเข้าถึงอารมณ์ได้ยากกว่าบทกู้ไห่ เขาเหมาะสมแล้วที่จะได้รับหน้าที่นี้ เมื่อเว่ยโจวได้ยินดังนั้นก็ต้องตอบตกลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่เห็นว่าทีมงานเห็นในความสามารถหรอกนะถึงยอม…
“นายกลัวฉันรึไง”
หวงจิ่งหยูวหัวเราะขบขันก่อนจะรวบคออีกฝ่ายแล้วดึงเข้ามาแนบชิดกันแถมยังแอบดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากกลุ่มผมนุ่มนิ่มเหมือนขนแมวนั่นจนเต็มปอด…ชื่นใจเป็นบ้า…
“ถอยออกไปเลย”
เว่ยโจวหน้าง้ำงออย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะผลักอกหนาให้ออกห่างจากตัว เขาไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กบอบบางอะไรเลยทั้งส่วนสูงรูปร่างและกล้ามเนื้อก็มีเหมือนที่ผู้ชายหุ่นดีทุกคนควรมี แต่พอได้มาเจอกับไอ้หมีควายนี่เขากลับดูตัวหดลงไปมาก ทั้งที่ส่วนสูงก็ไม่ต่างกันมากแต่ความหนาของลำตัว แขน แผ่นอก ไอ้หมอนี่มันชนะขาดรอย โดนมันกอดทีไรเหมือนจะจมหายเข้าไปในอกทุกครั้ง ทำเอาความภาคภูมิใจในรูปร่างของเขาหดเข้ากระดอง พับผ่า!
“เหอะ!แค่นี้ทำเป็นหวง ทีตอนนายนอนแล้วละเมอเข้ามากอดฉันเป็นลิงนี่ยังไม่บ่นเลย”
จิ่งหยูวผลักหัวคนตรงหน้าด้วยความหมั่นเขี้ยวในท่าทางเหวี่ยงๆนั่น ดูทำหน้าเข้าสิน่ากลัวจะตายห่า ปากแดงๆตุ่ยๆนั่นมันน่าจับมากระแทกด้วยปากซะให้เข็ด! จิ่งหยูวสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆนี่ออกไปจากหัว ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเริ่มสนใจในตัวของสวี่เว่ยโจว อาจจะเพราะไอ้ท่าทางห่ามๆที่แสนจะขัดกับหน้าตานี่ละมั้ง ดูแล้วเพลินตาดี น่ารักเป็นบ้า
“พูดมากหวะ”
เว่ยโจวทำหน้าเหวี่ยงใส่คนที่อายุเยอะกว่าก่อนจะหันไปหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมาจุดสูบแก้เครียด เขาแค่รู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถแสดงออกไปได้ดีเท่าที่ควรจนนึกรู้สึกผิดกับผู้กำกับและทีมงานไม่น้อยที่ต้องอดหลับอดนอนกันเพราะฉากนี้ เขาจะหวั่นใจอะไรนักหนาก็แค่หลับๆตาแสดงไปคิดซะว่าไอ้หมีควายนั่นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักๆสักคนก็สิ้นเรื่อง…กลัวอะไรกันนะสวี่เว่ยโจว กลัวที่อีกฝ่ายเป็นผู้ชายเหมือนกันหรือกลัวที่เผลอใจไปกับผู้ชายคนนี้กันแน่…
“เอาล่ะๆ ฝืนไปยังไงวันนี้ก็คงไม่ได้เรื่อง พวกนายไปพักผ่อนกันเถอะ เลิกกองได้”
ผู้กำกับเห็นท่าทีว่านักแสดงฝ่ายรับของเขาเริ่มสติแตกฟุ้งซ่านแล้วจึงสั่งให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อนเพราะนี่ก็ปาไปจะเที่ยงคืนแล้วจะได้มีแรงมาลุยงานต่อในวันพรุ่งนี้กัน
“ขอโทษทุกคนด้วยครับ เพราะผมเลยต้องลำบากกันขนาดนี้”
สวี่เว่ยโจวรีบดีดมวนบุหรี่นั่นทิ้งทันทีก่อนจะลุกขึ้นโค้งตัวขอโทษพี่ๆทีมงานและผู้กำกับยกใหญ่ ทุกคนมองภาพตรงหน้าด้วยความเอ็นดูในตัวเด็กคนนี้ เว่ยโจวเป็นคนที่ทุ่มเทในงานมากเขาไม่เคยทำอะไรให้ทีมงานรู้สึกแย่เลยแม้แต่น้อย สัมมาคาราวะก็ดี แถมยังถ่อมตนและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ เป็นน้องชายที่น่ารักของทุกคนเลยจริงๆ หวงจิ่งหยูวมองภาพที่ผู้ชายตัวสูงกำลังก้มโคงขอโทษขอโพยแล้วก็ทำให้อดยิ้มมุมปากไม่ได้ นี่ถ้ามีหูเหมือนแมวคงลู่ตกได้อย่างน่าสงสารไม่หยอก หึหึ
“ไม่เป็นไร น่าไม่ต้องคิดมากหรอก”
“ซ้อมบ่อยๆเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง เนอะจิ่งหยูว”
“นอนห้องเดียวกันก็ตั้งใจซ้อมนะตั้งใจซ้อม ไม่ใช่นอกบทกันนะเว้ยฮ่าๆ”
พี่ๆทีมงานร้องแซวขึ้นมาจนทำให้แก้มขาวๆนั่นขึ้นสีแดงหน่อยๆก่อนจะหัวไปมองไอ้ฝ่ายรุกที่ตอนนี้ยืนยิ้มระรื่นอยู่ข้างๆเขา เอาศอกกระทุ้งตัวมันไปทีนึง หมั่นไส้ในความมั่นหน้ามั่นใจพ่อพระเอกของกอง
“ไปหาอะไรกินกัน”
เว่ยโจวเดินตามแรงลากถึกควายทนนั่นออกมาเพราะต้านทานแทบไม่ไหว แรงเยอะชิบหาย! ทั้งคู่เดินเรื่อยเปื่อยจนถึงร้านเล็กๆริมทางร้านนึง จิ่งหยูวจัดการสั่งอาหารทั้งหมดก่อนจะจบด้วยเบียร์เย็นๆมาจิบเพื่อให้หายเหนื่อยจากการทำงาน พออาหารมาไอ้เด็กแสบตรงหน้าก็เอาแต่นั่งจิ้มอาหารไปมาไม่ลงมือกินซะทีจนเขาเริ่มรู้สึกไม่อร่อยไปด้วย
“เป็นอะไร หืม”
เขาเอ่ยถาม เว่ยโจวเงยหน้าขึ้นมาสบตาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะหยิบบุหรี่อีกตัวออกมาจากกระเป๋ายังไม่ทันที่จะได้จุดไฟ ไอ้คนตรงหน้าก็ดึงออกแล้วโยนทิ้งลงไปในท่อน้ำซะแล้ว เขาหงุดหงิดจนแทบจะลุกไปบีบคอมันให้ตายคามือ!
“ทำบ้าอะไรวะ!”
“กินเข้าไปซะ ทำหน้าเบื่อโลกเหมือนจะตายวันตายพรุ่ง คนอยู่ด้วยมันไม่เจริญอาหาร!”
จิ่งหยูวคีบเนื้อผัดใส่จานอีกคนก่อนจะบังคับให้เด็กแสบตรงหน้ากินข้าวซะบ้างเพราะตอนนี้สวี่เว่ยโจวเริ่มผอมลงไปเยอะ เมื่อก่อนตอนเจอกันครั้งแรกทั้งไหล่ทั้งตัวก็ดูหนาพอกันแล้วดูตอนนี้สิตัวหดลงยังกับเด็กม.ปลายวัยกำลังแตกหนุ่มถึงจะสูงแต่ตัวก็กลับดูเพรียวบางลงกว่าเดิมมาก นี่มีแต่เจ้าตัวล่ะมั้งที่คิดว่าตัวเองยังคงตัวใหญ่ไหล่หนาเหมือนเมื่อก่อน
“เฮอะ”
ด้วยความรำคาญจากคนแก่ขี้บ่นเขาจึงจัดการคีบชิ้นเนื้อเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆตั้งหน้าตั้งตากินจนแก้มขาวๆนั่นแทบแตก จิ่งหยูวนั่งมองภาพทั้งหมดก่อนจะหลุดยิ้มออกมา น่ารักเป็นบ้าเลยโว้ย!
“ประสาทเหรอ มานั่งมองคนอื่นกินข้าว”
เว่ยโจวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดไม่น้อยไม่ชอบให้คนมานั่งจ้องหน้าแบบนี้เลยให้ตายเหอะ!
“เบียร์ไหม”
หวงจิ่งหยูวเมินท่าทางหงุดหงิดนั่นด้วยความเอ็นดู ดุยังไงของเขานะเหมือนแมวตัวโตๆชะมัด…ริมฝีปากระบายยิ้มออกมาอย่างขบขันในท่าทางโมโหของคนตรงหน้าก่อนจะยื่นขวดเบียร์ไปให้ เว่ยโจวมองมันแล้วส่ายหน้าปฏิเสธทันที เขาถูกกับแอลกอฮอลล์ซะที่ไหนกันแค่เบียร์กระป๋องยังทำเอาสติหลุดลอยไปไหนต่อไหน
“เอาน่าสักหน่อย จะได้หายเหนื่อย”
ฝ่ายคนพี่ก็ยังคะยั้นคะยอยัดเยียดขวดเบียร์ให้จนเว่ยโจวตัดรำคาญด้วยการรับมันมาแล้วยกกระดกขวดจนของเหลวสีใสไหลออกมาจากมุมปากผ่านสันกรามได้รูปลากผ่านลำคอขาวที่ตอนนี้เริ่มขึ้นเป็นสีแดงจางๆเพราะฤทธิ์ของน้ำเมา หวงจิ่งหยูวมองภาพตรงหน้าด้วยสติที่พล่าเบลอ เขากลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ…เซ็กซี่เป็นบ้า…
เวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบตีหนึ่งกว่าๆหวงจิ่งหยูวยังคงมีสติเต็มร้อยเบียร์หกขวดที่ยัดห่าลงไปเหมือนน้ำเปล่าไม่ระคายกระเพาะเขาสักนิด ต่างจากอีกคนที่กินไปแค่สองขวดตอนนี้นั่งนิ่งซะเรียบร้อยเชียว
“โจว”
จิ่งหยูวเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้มีอาการมึนงงสับสนในชีวิต
“…”
“โจวโจวกลับห้องกัน”
จิ่งหยูวดึงอีกคนให้ลุกขึ้นตามมาก่อนจะเดินไปจ่ายเงินค่าอาหารให้เรียบร้อย เขาเดินจูงมือไอ้เด็กแสบที่ตอนนี้เรียบร้อยซะจนนึกว่าเป็นใบ้ อาจจะเพราะอากาศที่หนาวทำให้มือที่เล็กกว่านั่นบีบฝ่ามือของเขาไว้ซะแน่น
“หนาวเหรอ?”
ร่างสูงใหญ่หันไปถามคนข้างกาย เว่ยโจวพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ จิ่งหยูวเห็นดังนั้นก็ระบายรอยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไอ้เด็กขี้เมาตรงหน้า อุ้งมือใหญ่บีบกระชับมือที่เล็กกว่าให้แน่นขึ้นก่อนจะดึงเข้ามาไว้ในช่องเสื้อฮู้ดตัวหนาของตัวเอง เว่ยโจวมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยอาการมึนงงเขากำลังจะดึงมืออกแต่กลับถูกมือใหญ่ๆนั่นรั้งเอาไว้อย่างเหนียวแน่นจึงปล่อยเลยตามเลยไป เดี๋ยวก็ถึงห้องแล้ว อากาศหนาวแบบนี้ผู้ชายสองคนจับมือกันคงไม่แปลกอะไรหรอกมั้ง อยู่แบบนี้ก็อุ่นดีเหมือนกัน…
.
.
ทันทีที่ถึงห้องพักจิ่งหยูวก็ดันตัวไอ้เด็กแสบที่ตอนนี้ไร้สติเพราะแอลกอฮอลล์เข้าไปอาบน้ำทันที ผ่านไปสักพักสวี่เว่ยโจวก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่สิ่งที่หวงจิ่งหยูวสนใจก็คือชุดนอนของคนที่พูดนักพูดหนาว่าตัวเองนั้นชายแท้แน่นอนเป็นเหล็กที่ยอมหักไม่ยอมงอต่างหาก…ไอ้เสื้อยืดสีขาวย้วยๆพิมพ์ลายแมวกับกางเกงนอนขาสั้นเลยเข่าอวดเรียวขาขาวๆนี่มันอะไรกันวะ!! ร้อยวันพันปีเห็นใส่แต่ขายาว ไหนจะผมหน้าม้าที่ปกติเจ้าตัวมักจะเซ็ทให้มันตั้งตอนนี้มันลงมาปรกหน้าเรียวได้รูปนั่นไว้จนทำให้หน้าหวานขึ้นไปอีก
เว่ยโจวเดินมาที่เตียงก่อนจะทิ้งตัวฟุบลงไปอย่างหมดแรงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ที่เขาไม่ค่อยจะถูกกับมันมากนัก
จิ่งหยูวเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายตัวเองบ้างระหว่างที่อาบน้ำเขาก็คิดทบทวนถึงอีกคนเล่นเพลินๆ…ทำไมสวี่เว่ยโจวตัวหอมนักนะ ทั้งๆที่ก็ใช้สบู่ยี่ห้อเดียวกันแท้ๆแต่พออยู่บนเรือนร่างขาวๆนั่นมันกลับหอมออกมาแปลกๆเป็นกลิ่นที่ยั่วยวนโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจ.. นึกไปพลันไอ้น้องชายตัวดีที่หลับใหลตอนนี้เริ่มตื่นขึ้นมา เขาเมินอาการเรียกร้องของมันก่อนจะสะบัดความคิดฟุ้งซ่านนั่นออกไปจากหัว
เรือนร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพกางเกงนอนขายาวตัวเดียว เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อที่เรียงตัวสวยตั้งแต่ลาดไหล่หนาไปจนถึงเอวสอบ ดวงตาคมจ้องมองร่างสูงโปร่งของใครอีกคนที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียงหลังใหญ่…สงสัยจะเมาจริงๆแฮะ
“โจวโจว”
เขาเดินเข้าไปหาก่อนจะสะกิดเรียกให้อีกคนตื่นเพื่อเปลี่ยนท่านอน เล่นฟุบหน้าลงกับหมอนอย่างนี้หายใจไม่ออกกันพอดี
“…”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายจิ่งหยูวเลยจัดการพลิกตัวอีกคนให้นอนหงาย เขาสะดุดไปเล็กน้อยกับภาพตรงหน้า ไอ้เด็กตัวขาวที่ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวขึ้นสีแดงเรื่อไปหมดเพราะฤทธิ์ของเบียร์ ดวงตาคู่สวยปรือปรอยเหมือนคนจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่…ทำไมยั่วขนาดนี้วะ!
รู้สึกตัวอีกทีเขาก็เผลอขึ้นคร่อมเหนือร่างอีกคนไว้ซะแล้วใบหน้าคมเลื่อนลงไปใกล้ซอกคอขาว ไม่ทันได้ทำอะไรจู่ๆคนใต้ร่างก็พูดออกาด้วยเสียงอ้อแอ้แทบฟังไม่ได้ศัพท์
“กู้ไห่..”
หวงจิ่งหยูวเผลอหลุดขำออกมานี่คนตรงหน้าเขาอินกับบทป๋ายลั่วอินขนาดไหนแล้วเนี่ย สงสัยจะเครียดเรื่องฉากนี้มากขนาดเมาแล้วยังเก็บมานึกถึงมันได้
“ว่าไงอินจื่อ”
ในเมื่อคนตรงหน้านึกว่าเขาเป็นกู้ไห่ ก็ขอโอกาสสวมบทป๋ายลั่วอินให้หน่อยละกัน ถือว่าเป็นการซ้อมบทไปในตัวนะเนี่ย…ไม่ได้คิดอยากจะฉวยโอกาสจากคนเมาเลยแม้แต่น้อย หึหึ
“กู้ไห่…นายจะทำอะไร”
ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นมองคนด้านบน จิตใต้สำนึกสั่งให้เขาผลักคนตรงหน้านี่ออกไปตามบท แต่เรี่ยวแรงที่มีมันน้อยซะจนอีกฝ่ายไม่กระดิกเลยแม้แต่นิดเดียว หวงจิ่งหยูวจ้องเรียวปากอวบอิ่มที่ขึ้นสีแดงจัดตรงหน้า เสียงแหบพร่าที่หลุดออกมาจากปากสวยๆนี่ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปบดเบียดริมฝีปากเข้าด้วยกัน ฟันเขี้ยวของเขากระแทกเข้ากับเรียวปากอีกคนจนเจ้าตัวสะดุ้งเบาๆ
“อินจืออา.”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างใบหูที่ขึ้นสีแดงจัดนั่น ทำให้ขนอ่อนทั่วร่างลุกชูชัน เว่ยโจวที่ตอนนี้กำลังคิดว่าตัวเองเป็นป๋ายลั่วอินเริ่มดิ้นขัดขืนขึ้นมาเล็กน้อย
“กู้ไห่!ไม่…อย่าทำแบบนี้!”
“อินจื่อ…ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
“ไม่!”
เว่ยโจวที่เริ่มออกแรงขัดขืนไปตามบทพยายามหันหน้าหลบใบหน้าคมที่พยายามจะประกบปากจูบกับเขา จิ่งหยูวมองท่าทางขัดขืนนั่นด้วยอารมณ์ที่เริ่มครุกกรุ่นขึ้นมา…ตัวขาวๆที่อยู่ใต้ร่างเขา กลิ่นตัวหอมฟุ้งนี่ทำให้หวงจิ่งหยูวลืมบทกู้ไห่ไปอย่างสิ้นเชิง
“กู้ไห่!อื๊ออ!!”
ดวงตาคู่สวยเบิกขึ้นอย่างตกใจเพราะเรียวปากของคนด้านบนที่จู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็วแถมยังจะพยายามจะสอดลิ้นเข้ามาอีก ฝ่ามือใหญ่เลื่อนลงมาล้วงเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวหลวม ลูบไล้ผิวเนียนลื่นมือนั่นอย่างเพลิดเพลินก่อนจะเลื่อนขึ้นไปนวดคลึงกับยอดอกสีสดที่ตอนนี้เริ่มแข็งขืนสู้มือ…นี่มันชักจะนอกบทแล้ว!
“ย..อย่า”
หวงจิ่งหยูวที่ตอนนี้สภาพเหมือนคนมึนเมาหน้ามืดเพราะผิวกายขาวๆที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อนี่ยั่วยวนเกินจะห้ามใจ ส่วนกลางลำตัวที่ถูกกระตุ้นตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำค่อยๆแข็งขืนขึ้นมาจนเจ้าตัวต้องนิ่วหน้าเพราะอารมณ์วูบหวามที่จู่โจม
“อืม..โจวโจว”
จิ่งหยูวสอดตัวเข้าไประหว่างขาเรียวทั้งสองข้างฝ่ามือใหญ่จัดการดึงเสื้อยืดตัวใหญ่นั่นขึ้นมากองไว้ที่คอจนเผยให้เห็นแผ่นอกขาวกับตุ่มไตสีสด ใบหน้าคมก้มลงไปหาเป้าหมาย ลิ้นอุ่นชื้นลากผ่านเป็นการทักทายก่อนจะดูดดุนเนินเนื้อนั่นเบาๆเป็นการหยอกล้อ
สวี่เว่ยโจวที่ตอนนี้สติเริ่มถูกกลืนกินเพราะถูกกระตุ้นอารมณ์ดิบแถมแอลกอฮอลล์ในร่างกายที่ยังคงค้างอยู่นี้ทำให้การควบคุมตัวเองเป็นศูนย์
“ฮะ..กู้ไห่อาาาา”
แผ่นอกขาวแอ่นขึ้นรับสัมผัสของโพรงปากอุ่นที่ครอบครองลงมา มือเรียวสอดเข้าไปหลังต้นคอแกร่งก่อนจะนวดคลึงท้ายทอยนั่นอย่างเผลอตัวจนเสียงทุ้มต่ำหลุดครางออกมาแผ่วเบาอย่างพอใจ…นี่มันยั่วกันชัดๆ ไอ้ขี้เมานี่!!
“กู้ไห่..อืออ ดูดแรงๆสิ”
เสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นก่อนมือเรียวจะกดใบหน้าคมให้แนบชิดไปกับแผ่นอกตัวเอง แต่ชื่อที่ถูกเรียกกันหลุดออกมาจากเรียวปากสีสดก็ทำให้อีกคนอดคิ้วกระตุกไม่ได้…เดี๋ยวนะ…นี่ไอ้คนตรงหน้ายังคนอินว่าเขาเป็นกู้ไห่อยู่หรอกเหรอเนี่ย มันใช่เรื่องไหม!
“เห้ย!สวี่เว่ยโจว”
ฝ่ามือใหญ่ตบเบาๆที่ข้างแก้มขาวเพื่อเรียกสติ ร่างข้างใต้ช้อนตาขึ้นมามอง ดวงตาปรือปรอยที่จ้องกันมานั้นทำเอาคนถูกมองใจกระตุกวูบ แก่นกลางลำตัวขยายขึ้นกว่าเดิมบ่งบอกถึงแรงอารมณ์ที่เริ่มพุ่งทะยานขึ้นสูง
“กู้ไห่…เอาฉันที”
“ห้ะ!!?”
หวงจิ่งหยูวตกใจจนแทบช็อคเพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากไอ้ขี้เมานั่น เขาจดจ้องร่างขาวๆที่ตอนนี้เริ่มอยู่ไม่สุขมือเรียวนั่นลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของตัวเองก่อนจะไปหยุดอยู่กลางลำตัวนั่นพอดี หวงจิ่งหยูวเริ่มเหงื่อตกเพราะคนตรงหน้าเขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ เว่ยโจวนวดคลึงแก่นกายที่เริ่มตื่นจนดันเนื้อผ้าขึ้นมาสายตาก็ยังคงจับจ้องมาที่เขาอย่างไม่วางตา
สวี่เว่ยโจวจัดการร่นกางเกงขาสั้นกับชั้นในลงมาอย่างหมิ่นเหม่เพื่อให้โจวน้อยออกมาทักทายร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้แข็งเป็นหินไปเรียบร้อย มือเรียวรั้งชายเสื้อยืดของตัวเองขึ้นมางับเอาไว้ก่อนจะค่อยๆขยับมือที่กอบกุมแก่นกายตัวเองอย่างช้าๆ ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำแห่งแรงอารมณ์ เรือนร่างบิดเร่าไปด้วยความเสียวซ่าน สายตาคมกล้าจ้องมองร่างตรงหน้าพร้อมขบกรามกรอดจนเส้นเลือดขึ้นข้างขมับ …ผู้ชายบ้าอะไรวะโคตรเอ็กซ์แตก!!
“กู้ไห่…สัมผัสฉันสิ”
“ฉันไม่ใช่กู้ไห่นะเว้ย!”
“กู้ไห่อาา”
“บ้าเอ้ย!!”
เสียงแหบแห้งสั่นเครือก่อนจะจ้องมองไปที่ดวงตาคมกล้า ทำเอาหวงจิ่งหยูวหมดสิ้นความอดทนทันทีเขาสบถสาบานออกมาก่อนจะกระโจนเข้าไปหาไอ้ขี้เมาช่างยั่วนั่น วินาทีนี้ต้อให้คนตรงหน้าจะเห็นเขาเป็นใครก็ช่างแม่งแล้ว! มือใหญ่กระชากกางเกงคนใต้ร่างออกไปให้พ้นทางก่อนจะร่นทางเกงขายาวของตัวเองออกพอให้สามารถเอาสิ่งใหญ่โตนั่นออกมาได้
“อืออ”
ร่างที่เล็กกว่าเริ่มบิดตัวเร่าๆเพราะอุ้งมือใหญ่กอบกุมแก่นกายของทั้งสองคนเข้าด้วยกัน ไอร้อนจากความใหญ่โตนั่นแผ่ออกมาจนทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปด้วยด้วยแรงอารมณ์ หวงจิ่งหยูวเริ่มขยับมืออย่างช้าๆ ความรู้สึกนี้เขาไม่เคยได้รับมาก่อนมันรู้สึกดีจนทำให้เขาแทบสำลักความสุขออกมา กายที่เสียดสีกันและกันทำให้แรงอารมณ์ของทั้งคู่พุ่งทะยานไปอย่างรุนแรง
“ฮ..อ๊า ม..ไม่ไหวแล้ว กู้ไห่ แรงกว่านี้! อึก!”
เว่ยโจวยกมือขึ้นโอบรอบแผ่นหลังกว้างพร้อมกับข่วนเล็บลงไปเพื่อระบายความเสียวซ่าน จิ่งหยูวซี้ดปากเพราะเล็บคมนั่นขูดผิวเขาซะแสบไปหมด เขาจัดการเอาคืนด้วยการรูดรั้งแก่นกายอีกคนอย่างแรงจนร่างข้างใต้เริ่มกระตุกใกล้จะปลดปล่อยเต็มที แต่ก็หยุดการกระทำไว้เพียงเท่านั้นจนอีกคนสะดุ้งเฮือก
“หยุดทำไม”
เว่ยโจวมองตามอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปจัดการอารมณ์ที่ยังคงค้างคานั่นให้เสร็จกลับถูกมือใหญ่นั่นรวบเอาไว้เหนือหัว….ตอนแรกจิ่งหยูวก็มองว่ามันสนุกดีที่อยู่ๆไอ้ผู้ชายตัวสูงที่ชอบทำตัวห่ามๆลุกขึ้นมาออดอ้อนเป็นแมวแบบนี้แต่เขาชักจะหัวร้อนขึ้นมาจริงๆแล้วนี่สิ สงสัยต้องเรียกสติไอ้ขี้เมาหยำเปนี่จริงๆจังๆซะที
“ฮื่ออ..ปล่อย”
“ไม่”
จิ่งหยูวก้มลงมองร่างที่บิดเร่าๆเพราะต้องการที่จะปลดปล่อยเขาแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอื้อมมือไปบีบแก้มของอีกคนแล้วบังคับให้มองตากัน
“บอกมา…ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านายคือใคร”
“…”
“บอกมาสิ”
สายตาดื้อรั้นนั้นจ้องร่างสูงใหญ่อย่างเจ็บใจ นี่ขนาดเมาไม่ได้สติยังคงความดื้อไว้เหมือนเดิมเลยนะเนี่ย จิ่งหยูวนึกขำในใจ
“ได้..นายอยากลองดีเองนะ”
ใบหน้าคมซุกลงไปที่ซอกคอขาวทันทีลิ้นอุ่นชื้นลากเรื่อยตั้งแต่ซอกคอเรื่อยมาถึงแผ่นอกผ่านไปจนถึงหน้าท้องแบนราบที่มีกล้ามเนื้อพอประมาณ เว่ยโจวตัวเกร็งเพราะสัมผัสวาบหวามที่อีกคนมอบให้ เขาขบกัดริมฝีปากตัวเองไว้ไม่ให้มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา ตอนนี้สติที่หายไปเริ่มกลับเข้าร่างแล้วสวี่เว่ยโจวได้แต่กัดฟันเพราะความกระดากอายแล่นพุ่งเข้ามาชนอย่างจัง
“เว่ยโจวอา..มองฉันสิ”
สวี่เว่ยโจวแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดเขาหันไปตามคำชวนของอีกฝ่าย ฝ่ามือใหญ่นั่นกำลังรูดรั้งท่อนเนื้อร้อนพลางมองสบตากับเขาไปด้วย เว่ยโจวตัวร้อนวูบขึ้นมาทันทีกับสายตาร้อนแรงที่จ้องกันไม่วางตา
“โจวโจว อืมมมม ซี๊ดดด”
“ป..ปล่อย”
เขาเอ่ยขอร้องอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นครือ อารมณ์ที่ค้างมาจากเมื่อกี้เริ่มโหมกระพรือขึ้นมาอีกรอบ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยมือให้เขาเป็นอิสระ ร่างที่เล็กกว่าเริ่มดิ้นเบาๆเพราะต้องการที่จะปลดปล่อยความต้องการออกมา หวงจิ่งหยูวตอนนี้เริ่มหน้ามืดเพราะถูกห้วงอารมณ์ดิบกลืนกินตอนแรกกะจะแกล้งไอ้ตัวแสบนี่ให้สำนึกซะหน่อยแต่เป็นเขาซะเองที่ไม่รอด ร่างสูงใหญ่แทรกตัวเข้าไประหว่างขาเรียวจนสะโพกของอีกคนลอยขึ้นมา ก่อนจะนำส่วนใหญ่โตที่ร้อนระอุนั่นมาถูกับร่องสะโพกอิ่มไปมา
“จะทำอะไรน่ะ!”
“ขอเข้าไปนะ…ไม่ไหวแล้ว”
จิ่งหยูวพึมพำอยู่ข้างซอกคอขาวเขาสูดกลิ่นกายหอมจนเต็มปอดก่อนจะแนบเรียวปากอุ่นลงไปเพื่อเป็นการปลอบประโลม
“ไม่!ไม่ใช่ตอนนี้”
เว่ยโจวยืนกรานเสียงแข็งแม้จะเขวไปบ้างเพราะ’ไอ้นั่น’ที่แนบชิดลงมาทำเอาสติกระเจิง เขาดันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั่นเอาไว้เป็นการห้ามไม่ให้ลุกล้ำมามากกว่านี้
“เมื่อกี้นายยังบอกให้ฉันเอานายอยู่เลยนี่”
“ไม่!!”
“แต่นายก็พูดมาแล้วอ่ะ”
จิ่งหยูวส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่พอใจ วันหลังพ่อจะจับมอมเหล้าหนักๆเลยคอยดู!!
ใบหน้าคมเริ่มบึ้งตึง จนอีกคนต้องยอมอย่างเหนื่อยใจ
“ถ้าแค่ข้างนอก…จะทำก็ได้นะ”
“จริงนะ”
“จะทำไม่ทำ”
แทนคำตอบร่างสูงใหญ่ก็ตรงเข้าไปจู่โจมปากแดงๆนั่นทันทีก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปพัวพันกับอีกฝ่ายจนเกิดเสียงน่าอายก้องห้องนอน จิ่งหยูวบดจูบอย่างหนักด้วยความหมั่นเขี้ยว มือใหญ่ทั้งสองข้างเลื่อนมานวดคลึงยอดอกสีสดอย่างแรงจนเจ้าตัวสะดุ้ง
“อึก..อืออ เบาๆ”
จิ่งหยูวไม่สนใจเสียงร้องนั่นเขาเลื่อนใบหน้าลงมาก่อนจะขบกัดลงไปที่ตุ่มไตสีสดนั่นพลางเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่าย เว่ยโจวเชิดหน้าจนลำคอเป็นเส้นตรง ทั้งเจ็บทั้งรู้สึกดีความรู้สึกมันตีกันจนรวนไปหมด
จิ่งหยูวที่ตอนนี้มัวเมาไปกับร่างกายของคนตรงหน้าจนควบคุมตัวเองไม่ได้เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยออกมา ก่อนจะนำส่วนกลางกายที่ร้อนระอุมาจ่อไว้หน้าช่องทางรักของอีกฝ่ายเขาแนบแก่นกายนั่นไปกับร่องสะโพกนุ่มหยุ่นก่อนจะเริ่มขยับกายช้าๆจนคนที่ถูกลุกล้ำร่างกายภายนอกตัวร้อนวูบขึ้นมาทันที
“อืมม สุดยอดเลย”
ท่อนเนื้อร้อนที่ผลุบเข้าออกถูไถกับบริเวณนั้นทำให้อารมณ์ของทั้งคู่กระเจิดกระเจิง เสียงทุ้มต่ำครางออกมาอย่างพอใจกับรสสัมผัสแบบนี้
“นายรัดฉันแน่นมากเลย อืมม”
หวงจิ่งหยูวที่ตอนนี้จินตนาการว่าส่วนกลางกายของตัวเองได้ลุกล้ำเข้าไปในร่างกายอุ่นตรงหน้านี้เป็นที่เรียบร้อย เชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่านถึงอารมณ์ มือใหญ่กอบกุมสะโพกของอีกคนไว้ก่อนจะสวนกายรุนแรงขึ้น
“อ..อาา เบาๆหน่อยได้ไหม”
เว่ยโจวบอกคนที่กำลังโยกกายอยู่บนร่างเขาให้ระวับอารมณ์ตัวเองซะบ้างเพราะตอนนี้หัวเขาก็เกือบโขกกับหัวเตียงแล้วนี่ขนาดยังไม่ได้สอดใส่ยังรุนแรงขนาดนี้ ถ้าอนุญาติให้มันเข้ามาในตัวเขานี่จะไม่เจ็บตัวยิ่งกว่านี้เหรอ
“ซี๊ดดด สุดยอดไปเลย ข้างในตัวนายมันโคตรอุ่น”
“อ…อึก เข้ามาลึกๆกว่านี้สิ ฮ..อาาา”
ต่างคนต่างหลุดอยู่ในห้วงจิตนาการของตนทั้งคนที่คิดว่าได้สอดใส่และถูกสอดใส่ ร่างที่เล็กกว่าแอ่นตัวขึ้นเพื่อที่จะให้คนด้านบนสัมผัสได้อย่างเต็มที่มากกว่าเดิม แขนแกร่งสอดเข้าใต้เอวเล็กก่อนจะสวนกายแรงขึ้นตามแรงอารมณ์
“อ…อา ทำไมของนายมันใหญ่แบบนี้ อื้อออ”
หวงจิ่งหยูวร้อนวูบทั้งกายเขาไม่เคยมีอารมณ์รุนแรงเท่านี้มาก่อน เพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากปากแดงๆที่แสนยั่วยวนนั่น ทำเอาสติขาดผึง เขาขบกรามจนเป็นสันนูนเพื่ออดกลั้นไม่ให้กระแทกกายเข้าไปในตัวไอ้เด็กแสบคนนี้
“อ..อาาา ใหญ่เกินไปแล้ว”
“โจว..อย่าพูด!”
ร่างสูงตรงหน้าพยามยามกลั้นอารมณ์รุนแรงของตัวเองเอาไว้ แต่ไอ้คนช่างยั่วนั่นก็ยังไม่หยุดพูด ก็รู้ว่าเขาพยายามอดกลั้นตัวเองแค่ไหน นี่มันแกล้งกันชัดๆ!
“จิ่งหยูว…ของนายมันทำฉันหายใจไม่ออกแล้ว อ…อื๊อออ”
“โธ่เว้ย!!!”
เมื่อถึงขีดสุดของความอดทนแขนแกร่งนั่นก็ตวัดขาเรียวข้างนึงขึ้นมาพาดบ่ากว้างไว้ก่อนจะกระแทกกายเข้าไปในร่างนั่นจนอีกคนสะดุ้งตัวลอย
“อ…ฮ๊าาาา ไหนบอก อ..อาา จะทำแค่ข้างนอกไง”
“เพราะไอ้คนช่างยั่วน่ะมันนายคนเดียวเลย!!”
จิ่งหยูวขบกรามกรอดเพราะในร่างนั่นตอดรัดเขาจนแทบคลั่ง สะโพกสอบสวนกายเข้าไปอย่างรุนแรงเพื่อระบายอารมณ์จนคนใต้ร่างหัวสั่นหัวคลอน
“แรงไปแล้ว อื้ออ เบาๆ!”
ร่างสูงใหญ่ไม่ฟังคำอ้อนวอนนั่น เขากระแทกกายเข้าออกถี่ยิบเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน สะโพกบดเบียดกันจนร่างที่เล็กกว่าต้องแอ่นตัวขึ้นตามแรงกระแทก
“อ..โจว สุดยอดเลย”
“อื้อออ”
ใบหน้าคมก้มลงประกบปากจูบกับคนใต้ร่างที่ตอนนี้สติกระเจิงเพราะใกล้ถึงฝั่งของอารมณ์ สะโพกสอบขับเคลื่อนตัวด้วยความรุนแรง ปากก็ระดมจูบเรียวปากอวบอิ่มนั่นจนแดงเจ่อไปหมด ต่างคนก็ต่างกลืนกินอีกฝ่ายอย่างมัวเมาลุ่มหลงในสัมผัสของกันและกัน
“ซี้ดดดด อืมมมม”
“อ..อ๊าาาาาาาาาาาา!”
ร่างสองร่างตอบรับกันจนถึงที่สุดแห่งแรงอารมณ์จิ่งหยูวกระแทกกายเข้าไปในร่างอีกฝ่ายจนสุดก่อนจะแช่ค้างไว้อย่างนั้นแล้วฟุบตัวลงกอดไอ้เด็กแสบนั่นไว้ อีกฝ่ายเมื่อได้ปลดปล่อยหลังจากที่อดกลั้นมานานบวกกับความง่วงและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ผล็อยหลับไปแทบจะทันที
“โจว..”
“…”
“ฝันดีนะ…ป๋ายลั่นอินของฉัน”
หวงจิ่งหยูวเอื้อมมือไปหยิกแก้มขาวนั่นอย่างเบามือก่อนจะค่อยๆถอนกายออกมาจากร่างตรงหน้า ยอมรับว่ายังไม่เต็มอิ่มแต่วันนี้จะยอมให้ก็แล้วกันเห็นว่าเหนื่อยจากการทำงานในวันนี้หรอกนะ อ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดร่างที่เล็กกว่าเข้ามาซุกที่แผ่นอกเอาผ้าห่มมาคุมกายทั้งคู่ไว้ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราตามอีกคนไป…งานนี้สงสัยต้อง’มอม’เหล้าเด็กบ่อยๆซะแล้วสิ เพราะจากเหล็กที่แข็งแกร่งตอนนี้กลับหลอมละลายไปในอ้อมกอดเขาไปซะแล้ว…
.
.
.
.
End