[SF] Huangjingyu x Xuweizhou“งอน….ง้อ”-part2[R18+]

.

.

‘พูดให้มันดีๆนะ!’

“มึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งกู!”

ฝ่ายที่โดนคนอายุน้อยกว่าพูดคำหยาบใส่ขบกรามแน่นเขาไม่ชอบที่เว่ยโจวขึ้นคำหยาบในเวลาที่กำลังโกรธหรือทะเลาะกัน เพราะมันจะทำให้สถานการณ์ดูย่ำแย่ลงกว่าเดิมมาก มือใหญ่อีกข้างยกขึ้นมาบีบปลายคางมนไว้แน่น ดวงตาคมกล้าจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด จิ่งหยูวพยายามห้ามหัวเองไม่ให้ลงมือทำอะไรรุนแรง แต่สายตาของอีกคนที่จ้องกลับมาอย่างอวดดีนั้นกลับทำให้กองไฟแห่งโทสะยิ่งลุกโชนมากยิ่งขึ้น

อุ้งมือใหญ่ที่แข็งเหมือนคีมเหล็กบีบปลายคางเรียวเล็กจนเจ้าของใบหน้าน้ำตาซึมออกมาที่หางตา เว่ยโจวรู้สึกเจ็บใจและสมเพชในความอ่อนแอนี้แทบบ้า..ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาอาจจะสู้กับแรงผู้ชายแค่นี้ได้สบายมาก แต่ตอนนี้แม้แต่จะขัดขืนคนตรงหน้านี่เขายังทำไม่ได้ อาจเพราะตัวเขาเองที่อ่อนแอหรือเพราะว่าเป็นคนๆนี้ ร่างกายมันถึงไม่คิดที่จะต่อต้านกัน…

“พูดใหม่!”

“มึงเป็นบ้าหรอวะ! แม่งเอ้ย!เป็นเหี้ยอะไร….!!”

เสียงด่าทอถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอทันทีเมื่อถูกจู่โจมจากคนตรงหน้า จิ่งหยูวกระแทกริมฝีปากลงกับปากอิ่มอย่างแรงทำให้เขี้ยวคมของเขาครูดกับผิวเนื้อหยุ่นจนมีเลือดซึมออกมา คนที่ตัวเล็กกว่าพยายามสะบัดหน้าหนีเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับ แต่กลับโดนตรึงหน้าไว้จนไม่สามรถหลบหนีไปไหนได้ จิ่งหยูวรู้ดีว่าฟันเขี้ยวของเขาทำให้เว่ยโจวเจ็บแค่ไหนแต่เขากลับยิ่งบดเบียดริมฝีปากตรงหน้านี่รุนแรงมากขึ้นตามแรงโทสะ ฟันคมจงใจกัดลงไปที่เรียวปากสีสดก่อนจะดูดดุนอย่างรุนแรง ยิ่งเห็นเลือดซึมเขาก็ยิ่งบดปากแรงขึ้นจนร่างในอ้อมแขนเริ่มทุบตีเขาเป็นการประท้วง เว่ยโจวออกแรงทั้งหมดที่มีผลักคนตรงหน้าออก ก่อนจะสวนหมัดเข้าปะทะกับใบหน้าคมสันจนอีกคนหน้าหัน

“แรงใช้ได้นี่”

จิ่งหยูวหันกลับมาแสยะยิ้มเย็นแต่ในแววตากลับว่างเปล่าไร้อารมณ์จนทำให้อีกคนหน้าเสียไปเล็กน้อย ฝ่ามือหนายกขึ้นมาเช็ดของเหลวสีแดงสดที่ซึมออกมาจากมุมปากก่อนจะใช้ลิ้นเลียเก็บมันเข้าไป

“ชอบใช้ความรุนแรงก็ไม่บอก”

ช่วงขายาวย่างสามขุมเข้าไปหาคนที่ไม่คิดจะถอยหนี ดวงตากลมโตจงใจมองสบกับเขาโดยไม่หลบกันเลยสักนิด ดี…เก่งให้มันได้ตลอดนะสวี่เว่ยโจว จิ่งหยูวจัดการตวัดร่างที่เล็กกว่าขึ้นพาดบ่าทันที เว่ยโจวทั้งดิ้นและประทุษร้ายร่างกายเขาแถมยังจิกเล็บลงไปที่แผ่นหลังกว้างจนเนื้อแทบจะหลุดติดออกมา

“ปล่อยกู!!”

จิ่งหยูวไม่ฟังคำด่าทอต่างๆที่ถูกพรั่งพรูออกมา เขายกเท้าถีบประตูห้องนอนออกก่อนจะเหวี่ยงร่างของเว่ยโจวลงกับเตียงพร้อมกับตามไปคร่อมไว้ไม่ห่าง ยิ่งได้แนบชิดกันขนาดนี้ทำให้ตัวของสวี่เว่ยโจวดูเล็กลงไปกว่าเดิม เขาอดแปลกใจไม่ได้ทั้งๆที่เมื่อก่อนเว่ยโจวของเขายังไม่ตัวเล็กขนาดนี้ แต่วันนี้แค่เขาเอาตัวบังก็จมหายไปกับเตียงเสียแล้ว ฝ่ามือใหญ่ตรึงข้อมือเล็กไว้เหนือหัว ก่อนจะก้มลงไปมองใบหน้าอวดดีของคนใต้ร่าง

“ปล่อย!”

เว่ยโจวเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเขาโกรธมันจนแทบบ้าอยากจะต่อยหน้าแรงๆให้หายแค้นที่มันเหยียบศักดิ์ศรีเขาซะป่นปี้

“ ขัดขืนทำไม ชอบไม่ใช่เหรอ…บอกมาสิอยากให้เอาท่าไหน จะได้ไม่ต้องถ่อไปไกลถึงต่างประเทศให้คนเขามองว่าเป็นไอ้ตัวแบบนี้ ”

เว่ยโจวหน้าชาไปกับคำพูดที่อีกฝ่ายสาดใส่อย่างร้ายกาจเขารู้ว่าจิ่งหยูวกำลังขาดสติหน้ามืดเพราะถูกอารมณ์หึงหวงครอบงำ …ในเมื่ออยากทำร้ายความรู้สึกกันนัก ก็เอาให้มันพังกันไปข้างนึงเลยดีกว่า

“ความคิดต่ำๆ…ก็คู่ควรกับคนต่ำๆ”

สวี่เว่ยโจวจ้องตากับอีกคนโดยไม่มีการหลบ ชั่ววูบเขาเห็นแววตานั่นสั่นไหวเพราะคำพูดของเขาก่อนมันจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธและนิ่งเฉยไร้ความรู้สึก ดวงตาคมกวาดสายตามองร่างข้างใต้ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างหยาบโลนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันที่จะได้ข่มเห่งไอ้คนอวดดีนี่ให้รู้สำนึก

“’งั้นก็แย่หน่อยนะ..ที่จะโดนคนต่ำๆแบบกู’เอา’ทั้งคืน”

สรรพนามในการแทนตัวเปลี่ยนไปจนสวี่เว่ยโจวแอบใจเสียไม่ได้ จิ่งหยูวไม่เคยพูดคำหยาบใส่เขาเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่ทะเลาะกันมีแต่เขาที่เป็นฝ่ายหยาบคายก่อน แต่ในวันนี้คนตรงหน้าเหมือนไม่ใช่คนที่เขาคุ้นเคย แววตาที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคนทำให้เว่ยโจวเริ่มจะกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาจริงๆ ร่างที่เล็กกว่าพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจาดการเกาะกุมนี้แต่กลับไร้ประโยชน์สิ้นดี หวงจิ่งหยูวใช้น้ำหนักตัวทั้งหมดกดทับอีกคนไว้จนดิ้นไม่หลุด แววตาของเขาตอนนี้ว่างเปล่าไร้เงาสะท้อนของคนตรงหน้า หากนี่คือการร่วมรักทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจก็คงไม่ต่างจากการ’ข่มขืน’คนรักของตัวเอง..

คนที่โดนพิษของความหึงหวงครอบงำจนขาดสติจัดการฉีกทึ้งเสื้อยืดของอีกคนออกจนไม่เหลือชิ้นดีเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวเนียนที่อยู่ภายใต้เสื้อยืดตัวโคร่ง จิ่งหยูวจัดการเอาเศษผ้ามามัดปิดตาและผูกข้อมืออีกคนไว้กับหัวเตียง ก่อนจะก้มลงจู่โจมกับแผ่นอกขาวตรงหน้าอย่างรุนแรงไร้ความปราณี ไร้ซึ่งความอ่อนโยนและไม่มีการปลอบประโลมใดๆทั้งสิ้น ฟันคมครูดกับยอดอกสีสดก่อนจะกัดมันอย่างแรงจนคนใต้ร่างเกร็งตัวเพราะความเจ็บปวด

“ไม่!”

เว่ยโจวฝังหน้าลงไปกับหมอนฟันขาวกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นจนเลือดซิบ พยายามอดกลั้นตัวเองไม่ให้วาบหวามไปกับสัมผัสดิบเถื่อนนี้ จิ่งหยูวไล้เล็มไปเรื่อยๆดูดดุนด้วยความรุนแรงสลับกับขบกัดเนินเนื้อจนขึ้นรอยเป็นจ้ำเลือดทั่วบริเวณแผ่นอกบาง ใบหน้าคมสันซุกเข้ากับซอกคอขาวพร้อมกับสูดกลิ่นผิวเนื้อหอมกรุ่น กลิ่นกายของคนใต้ร่างทำให้อารมณ์ดิบในตัวเขาถูกปลุกเร้าขึ้นมาอย่างรุนแรง ฝ่ามือกร้านยกขึ้นมานวดคลึงผิวนุ่มมือที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงไปทั่วก่อนจะบดขยี้ยอดอกสีเรื่อนั่นอย่างไม่ออมแรง เว่ยโจวแอ่นอกขึ้นมารับสัมผัสวาบหวามนี้โดยอัตโนมัติแต่กลับไม่มีแม้แต่เสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน

 

จิ่งหยูวจัดการดึงกางเกงและชั้นในของอีกฝ่ายออกเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าโชว์ผิวขาวเนียนที่ทำให้เขาสติหลุดไปวูบนึง มือใหญ่เค้นคลึงไปทั่วร่างอย่างหลงใหลผิวลื่นมือซะจนแทบอดใจไม่ไหว เขาผละออกมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองให้หมดทุกชิ้น ก่อนจะสอดตัวเข้าไปตรงกลางระหว่างขาเรียวทั้งสองข้างแยกมันออกกว้างจนเว่ยโจวเริ่มต่อต้านอีกครั้ง อาจเพราะมองไม่เห็นว่าตนจะโดนคนตรงหน้านี่ทำอะไรบ้างจึงทำให้เขาเกิดอาการหวาดกลัวร่างทั้งร่างเริ่มสั่นแต่ก็พยายามอดกลั้นเอาไว้ไม่ให้อีกคนได้ใจ

“ยกสะโพกขึ้น”

เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูจนขนอ่อนลุกชันไปทั้งร่างไอร้อนระอุของคนที่ทาบทับอยู่เหนือร่างทำให้เว่ยโจวตัวสั่นสะท้าน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อต้นขาไปสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างเข้า ขาเรียวสองข้างพยายามหุบเข้าหากันเพื่อป้องกันตัวแต่กลับถูกท่อนแขนแข็งแรงตวัดมันขึ้นมาไว้ข้าวลำตัวทำให้ผิวเนื้อแนบชิดกันมากขึ้น มือใหญ่แยกขาเรียวออกกว้างสอดแทรกตนเข้าไปตรงกลางพร้อมบีบเฟ้นผิวเนื้อนุ่มมือนั่นอย่างหยาบโลน

“ใครสั่งให้หุบขา”

เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบ มือข้างหนึ่งกอบกุมส่วนกลางลำตัวที่ตอนนี้ตึงเครียดเพราะแรงอารมณ์เบื้องต่ำเส้นเลือดปูดโปนรอบบริเวณท่อนเอ็นจนน่ากลัว เขานำ’มัน’ถูกับร่องสะโพกก่อนจะหลุดครางออกมาแผ่วเบา เว่ยโจวตัวเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าจะต้องรองรับสิ่งใหญ่โตนั่น แต่ที่หนักกว่านั้นคือจิ่งหยูวไม่แม้แต่ละโอ้โลมให้เขามีอารมณ์ร่วมด้วยสักนิด

“ไม่!อย่า!”

ไม่แม้แต่จะฟังเสียงร้องห้ามร่างสูงใหญ่ก็กระแทกตัวเข้ามาจนสุด เว่ยโจวแอ่นตัวขึ้นเพราะความเจ็บปวดแล่นปลาบไปตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงก้านสมองเหมือนเข็มร้อนๆนับพันเล่มกำลังจี้ลงมา เขากัดริมฝีปากที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากเขี้ยวคมนั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ให้หลุดเสียงร้องออกมาลำคอแห้งผากเหมือนจะแหลกเป็นผง ทว่าจิ่งหยูวไม่แม้แต่จะสนใจเลือดที่ไหลออกมาจากช่องทางที่ฉีกขาดเพราะการกระทำที่รุนแรงของตัวเอง ของเหลวสีสดไหลเปรอะตามซอกขาเรียว เขาเริ่มขยับตัวเคลื่อนไหวอย่างสุขสมอยู่บนร่างที่แทบจะหมดสติไปเพราะถูกความเจ็บปวดกลืนกิน

 

“อืมมม”

เสียงครางทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างพอใจกับรสสัมผัสที่ได้รับ ในตัวของสวี่เว่ยโจวตอดรัดเขาจนแทบคลั่ง มือใหญ่เอื้อมไปจับช่วงเอวคอดไว้ก่อนจะเร่งแรงอารมณ์ให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม เขาก้มลงไปแก้มัดผ้าที่ปิดตาออก เผยให้เห็นดวงตากลมโตที่เคยสดใสแต่ตตอนนี้กลับแดงก่ำ หยดน้ำใสกลิ้งจากหางตาลงไปจนเปียกชุ่มหมอน ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นให้ได้ยิน….เจ็บใจ เจ็บใจที่โดนหยามศักดิ์ศรี แต่เจ็บใจตัวเองมากกว่าที่ไม่คิดจะปฏิเสธสัมผัสจากคนๆนี้ได้เลย

“แม่งเอ้ย!”

ใบหน้าหล่อเหลาเชิดหน้าขึ้นด้วยแรงอารมณ์ที่เริ่มโหมกระพือเขาสบถคำหยาบคายออกมาอย่างไร้สติ เอวสอบเร่งจังหวะขึ้นจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องห้องอย่างหยาบโลน แขนข้างนึงสวมกอดเข้าใต้สะโพกเล็กเพื่อเป็นหลักยึด

“อึก..”

เว่ยโจวเม้มปากแน่นเพราะสัมผัสที่โดนยัดเยียดมาถึงมันจะป่าเถื่อนและรุนแรงแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้เขาเริ่มมีอารมณ์ร่วมขึ้นมา แก่นกายร้อนผ่าวที่คับแน่นอยู่ในช่องท้องทำเอาสติเริ่มหลุด จิ่งหยูวเห็นดังนั้นจึงก้มลงไปแก้มัดเชือกที่ข้อมือให้และประกบจูบปากสีสดแสนยั่วยวนนั่นทันที ฟันคมไล่ขบกัดตั้งแต่ซอกคอขาว ลาดไหล่ แผ่นอก จนผิวขาวทั่วทั้งตัวขึ้นเป็นรอยจ้ำเลือดอย่างน่ากลัว ส่วนล่างยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องไม่มีผ่อน จวบจนที่สุดแห่งแรงอารมณ์จิ่งหยูวตวัดขาเรียวขึ้นพาดบ่ากว้างก่อนจะโหมกระหน่ำแรงอารมณ์อย่างเต็มที่

“อ..อาห์ ซี๊ดดดด”

ร่างสูงใหญ่กระแทกตัวเข้าไปในตัวอีกคนอย่างแรงจนปลดปล่อยออกมาในที่สุด จิ่งหยูวสบถคำหยาบออกมาไม่เป็นภาษาเขาถอนร่างออกมาพร้อมน้ำรักมากมายที่ไหลทะลักตามออกมามันไหลเปรอะไปตามซอกขาเรียวผสมกับเลือดสีสด เว่ยโจวหลับตาแน่นเพราะสมเพชสภาพตัวเองตอนนี้จนแทบอยากจะตายๆไปซะไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่ท่าทางว่าคืนนี้จะไม่ได้จบลงง่ายเพราะไม่ทันไรจิ่งหยูวก็ยกสะโพกเล็กจนตัวลอยให้นอนคว่ำหน้าลงกับเตียงหลังใหญ่ก่อนจะสวนกายเข้าไปอย่างรุนแรง ใบหน้าได้รูปของเว่ยโจวฟุบลงไปกับผ้าปูที่นอนเขากัดมันแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ได้รับ

“แน่นเป็นบ้า”

เสียงทุ้มต่ำครางออกมาอย่างสุขสมมือหยาบลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนไปตามแนวกระดูกสันหลังอย่างหลงใหล ก่อนจะดึงแขนเรียวทั้งสองข้างมาหาตัวเอง ทำให้ร่างของอีกคนต้องแอ่นหน้าอกขึ้นตาม มือใหญ่ที่แข็งเหมือนคีมเหล็กบีบต้นแขนเรียวเล็กนั่นเพื่อระบายอารมณ์จนขึ้นรอยช้ำเลือดอย่างน่ากลัว สวี่เว่ยโจวเป็นคนผิวขาวมากแค่จับเบาๆยังขึ้นรอยแดงได้

จิ่งหยูวเอื้อมมือไปหยอกล้อกับยอดอกสีสดที่ตอนนี้ชูชันอย่างยั่วยวนเค้าเค้นเคลึงมันจนผิวบริเวณรอบขึ้นรอยแดงก่ำ ใบหน้าคมฝังลงกับไหล่เล็กแล้วออกแรงกัดจนผิวขาวๆนั่นห้อเลือด เว่ยโจวกัดฟันจนสันกรามแทบจะแตกละเอียด เจ็บแค่ไหนก็ห้ามร้องไห้ออกมา…มันน่าสมเพช

“รัดแน่นขนาดนี้…ชอบใช่ไหม”

จิ่งหยูวที่ตอนนี้ตกลงสู่ห้วงอารมณ์ราคะไม่มีสติที่จะสามารถควบคุมความรู้สึกนึกคิดตัวเองได้ต่อไป  เขาดันร่างเว่ยโจวลงกลับไปที่เตียงก่อนจะตามไปทาบทับไว้ไม่ให้เหลือช่องว่างระหว่างกัน จมูกโด่งสูดกลิ่นกายหอมจากหลังซอกคอขาว ก่อนจะฝากรอยไว้จนทั่วลำคอเพรียวเต็มไปด้วยร่องรอยที่แสนน่าอาย เว่ยโจวหลับตาแน่นภาวนาให้เหตุการณ์บ้านี้รีบผ่านไปเสียที

เอวสอบสวนกายกระแทกเข้าไปในร่างอีกคนอย่างรุนแรงแล้วปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขาถอนตัวออกมาจากร่างตรงหน้า น้ำรักมากมายไหลย้อนออกมาตามซอกขาขาวร่างเล็กๆตรงหน้าสั่นเทิ้มอย่างน่าสงสารขาเรียวสองข้างพยายามหุบเข้าหากัน จิ่งหยูวมองภาพทั้งหมดด้วยสติที่แตกสลายไปเรียบร้อย เขาหมดความอดทนที่จะควบคุมอารมณ์หยาบช้านี่อีกต่อไป เขาตวัดกอดร่างข้างใต้ให้นอนหงายก่อนจะเริ่มกิจกรรมที่แสนเร่าร้อนใหม่ทั้งหมด

.

.

 

 

 

เวลาผ่านล่วงเลยไปจนไอแดดยามเช้าเริ่มลอดผ่านผ้าม่านทึบเข้ามาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ภายในห้องสว่างขึ้นเลย บนเตียงใหญ่หลังนั้นร่างสองร่างกำลังสอดประสานรวมตัวเป็นคนๆเดียวกันตั้งแต่เมื่อคืน กลิ่นอายของเพศรสคละคลุ้งไปทั่วห้อง ข้าวข้องและเสื้อผ้าต่างกระจัดกระจายไปคนละทาง

“อืมมม สุดยอดเลยโจว”

สิ้นเสียงครางปลดปล่อย หวงจิ่งหยูวก้มลงไปจูบปลอบประโลมร่างข้างใต้ที่ตอนนี้ทั่วทั้งเนื้อตัวขาวโพลนตั้งแต่หัวจรดเท้ากลับเต็มไปด้วยรอยฟันคมและจ้ำสีแดงห้อเลือดโดยเฉพาะแผ่นอกบางที่ตอนนี้เนินเนื้อและยอดอกบวมแดงเพราะถูกใช้งานมาอย่างหนัก รอบลำคอขาวมีรอยดูดและรอยฟันอยู่เต็มไปหมด แขนเรียวมีรอยช้ำสีม่วงเป็รรอยนิ้วมือใหญ่อย่างน่ากลัว ช่องทางรักด้านหลังที่ฉีกขาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าบวมแดงอย่างน่าสงสาร จิ่งหยูวรู้สึกว่าร่างตรงหน้าช่างดูยั่วยวนจนเขาเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ มือใหญ่ค่อยลูบไล้ตั้งแต่ช่วงอกลงมาจนถึงร่องสะโพก เว่ยโจวสะดุ้งเบาๆลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนละหลุดครางแผ่วเบา ความอดทนของหวงจิ่งอวี๋ขาดลงอีกครั้ง เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างที่แสนยั่วยวนเอาไว้พร้อมจ่อแก่นกายที่ถึงแม้จะผ่านศึกมาอย่างหนักแต่ก็ยังแรงไม่ตกไว้หน้าช่องทางสีสด

“ไม่..”

เสียงที่เคยหวานหูตอนนี้กลับแหบแห้งจนน่าสงสารร้องขออ้อนวอนให้เขาหยุด จิ่งหยูวทำหูทวนลมแล้วดันร่างเข้าไป แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงสะอื้นของใครบางคน เขาก้มลงมอง สวี่เว่ยโจวนอนหายใจรวยรินไม่มีแม้แต่แรงจะยกมือขึ้นห้ามเขาด้วยซ้ำ ดวงตาที่เคยฉายแววสดใสตอนนี้กลับหม่นหมองลงพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้า

“ไม่เอาแล้ว..ไม่ไหว ขอร้อง..”

แขนเรียวเล็กยกขึ้นกอดตัวเองพร้อมกับขดตัวเข้ามาหากันเหมือนเด็กน้อยเวลาปกป้องตัวเองจากอันตรายทำให้ตัวที่เล็กอยู่แล้วยิ่งเล็กเข้าไปอีก วินาทีนั้นหวงจิ่งหยูวเหมือนโดนฟ้าผ่าลงที่กลางหัว…นี่เขาทำอะไรลงไป? ไหนบอกว่าอยากดูแล ไหนบอกว่าอยากปกป้อง…จิ่งหยูวกวาดสายตาไล่มองคนรักตัวเองอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดที่เอ่อล้น

จิ่งหยูวถอนกายออกมาแล้วก้มลงไปหาคนรักหวังจะดึงมากอดปลอบ แต่เว่ยโจวกลับสะดุ้งเมื่อมือเขาสัมผัสโดนตัว ทำเอาเขาใจเสียจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา…กลัวกันแล้วใช่ไหม… จิ่งหยูวมองคนรักด้วยสายตาที่ต้อพ้อเขานึกเกลียดตัวเองที่ทำให้คนๆนี้ต้องเจ็บปวด

“โจว…พี่ขอโทษ”

“…”

“โจวให้พี่กอดเราได้ไหม”

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“…ออกไป”

“โจว…”

“…”

เว่ยโจวดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองไว้ก่อนจะหันหลังให้คนรัก…เขาไม่อยากจะรับฟังอะไรตอนนี้ จิ่งหยูวจึงจำเป็นต้องข่มใจเดินออกมาจากห้องตามความต้องการของอีกคน ก่อนที่อะไรจะแย่ไปกว่านี้….

.

.

.

เวลาผ่านล่วงเลยไปจนถึงช่วงเย็น เว่ยโจวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวและไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก คงเป็นเพราะอะไรๆที่มันค้างอยู่ในตัว นึกได้เขาจึงตัดสินใจลุกไปล้างตัวที่ห้องน้ำ แต่เมื่อขาสัมผัสกับพื้นความเจ็บก็แล่นแปลบขึ้นมาตามแนวกระดูกสันหลังทันที เพราะต้องรองรับอารมณ์รุนแรงเมื่อคืนจึงทำให้ไม่สามรถลงน้ำหนักที่เท้าทั้งสองได้ดีนัก เว่ยโจวค่อยๆพยุงตัวเองไปจนถึงห้องน้ำ เมื่อถึงบริเวณอาบน้ำก็จัดการเปิดน้ำเตรียมชำระร่างกายหันหลังพิงกำแพงไว้เป็นหลัก นิ้วเรียวค่อยๆสอดเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่บอบช้ำของตัวเองช้าๆ นิ่วหน้าด้วยความเจ็บจนน้ำตาซึมออกมา ฟันขาวกัดริมฝีปากที่เต็มไปด้วยแผลจนปากแผลปริเลือดไหลซึมออกมา

 

“อืออ”

เสียงครางออกมาแผ่วเบาเมื่อค่อยๆถอนนิ้วตัวเองออก น้ำรักมากมายที่คั่งคาไว้ก็ไหลลงมาตามเรียวขา เจ้าตัวนิ้วหน้าเพราะความเจ็บและกระดากอายตัวเอง

สวี่เว่ยโจวปล่อยให้ความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไหลไปเรื่อย คิดทบทวนถึงเหตุการณ์เลวระยำเมื่อคืนที่จิ่งหยูวได้กระทำกับตัวเขา เว่ยโจวไล่มองร่างกายตัวเองที่ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยจ้ำสีแดงเต็มไปหมดบางรอยก็ขึ้นเป็นสีม่วงช้ำเลือดอย่างน่ากลัว รอยขบกัดที่ผิวเนื้ออย่างหยาบโลน หนักสุดคือบริเวณแผ่นอกขาวที่เต็มไปด้วยรอยแดงน่ากลัวยอดอกสีสดตอนนี้กลับบวมและขึ้นสีแดงก่ำเพราะถูกกระทำรุนแรงจนตอนนี้เพียงสัมผัสแผ่วเบายังทำเอาเจ็บจนแทบหมดสติ อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาอาบแก้มขาว..ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น…

ถูกกระทำเหมือนไม่ใช่คนรักกัน ถูกหยามศักดิ์ศรี เหมือนเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ ฟันขาวขบกัดริมฝีปากที่ซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด สวี่เว่ยโจวปล่อยให้น้ำตามันไหลไปพร้อมกับสายน้ำที่ชำระร่างกาย พร้อมกับภาพตรงหน้าที่ค่อยๆมืดดับไป…..

 

TBC..

1 thoughts on “[SF] Huangjingyu x Xuweizhou“งอน….ง้อ”-part2[R18+]

ใส่ความเห็น